Advertisment

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กสทช.เล็ง 2จังหวัดเหนือ-อีสาน นำร่องบริการยูเอสโอ


บริการโทรคมทั่วถึงและเท่าเทียมทั่วประเทศยังเป็นความต้องการของประชาชนพื้นที่ห่างไกล ล่าสุด กสทช. เคาะแผนบริการยูเอสโอเตรียมนำร่อง 2 จังหวัด

บริการโทรคมอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมทั่วประเทศยังเป็นความต้องการของประชาชนพื้นที่ห่างไกล ล่าสุด กสทช. เคาะแผนบริการ ยูเอสโอ เตรียมนำร่อง 2 จังหวัดภาคเหนือ-อีสาน ใช้เงินรวม 500 ล้านบาท หวังเป็นต้นแบบไปพัฒนาพื้นที่ห่างไกลอื่นๆ จัดโซนนิ่งพื้นที่เอ-บี-ซี เปิดให้เอกชนเข้าประมูล

กสทช. คาดว่าจะเก็บรายได้จากค่าธรรมเนียม 3% ต่อไลเซ่นได้ปีละ 5,000 ล้านบาท รวม 5 ปี 25,000 ล้านบาทส่งเข้ากองทุนนำมาดำเนินการ เล็งชงแผนแม่บทเข้าบอร์ดกลางเดือน ก.พ.นี้ เชื่อประกาศใช้ในราชกิจจาทันแผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่มี.ค.นี้

พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า หลังจาก กสทช.เปิดรับฟังความเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) ร่างแผนการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (ยูเอสโอ) ประจำปี 2555-2559 แล้ว ขณะนี้กำลังเตรียมปรับปรุงรายละเอียดของแผนเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของ กสทช.และเหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการใช้งานบริการโทรคมนาคมอย่างทั่วถึง

เบื้องต้นคาดว่า คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) จะลงมติเห็นชอบร่างแผนแม่บทยูเอสโอได้อย่างเร็วที่สุดภายในกลางเดือนก.พ.นี้ จากนั้นจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช.อีกครั้ง ซึ่งต้องเร่งดำเนินการเพราะหลังจากบอร์ด กสทช. อนุมัติ หรือมีมติแล้ว จำเป็นต้องรอให้รับรองมติอีกครั้งด้วย หากไม่เร่งดำเนินการจะทำให้แผนแม่บทยูเอสโอประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาไม่ทันแผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่ เดือนมี.ค.นี้

นำร่อง2จังหวัด
ทั้งนี้ ตามเป้าหมายของแผนแม่บทยูเอสโอ กสทช.จะนำร่องเปิดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง 2 แห่ง ซึ่งยังไม่สรุปว่าเป็นจังหวัดใด จากเดิมกำหนดจังหวัดต้นแบบไว้ 4 แห่ง แต่ลดลงหลังทำประชาพิจารณ์ เบื้องต้นจะเป็นพื้นที่ภาคเหนือ 1 จังหวัด และอีสาน 1 จังหวัด งบประมาณแห่งละ 250 ล้านบาท โดยแต่ละจังหวัดแบ่งพื้นที่เป็นเอ บี และซี ตามสภาพการตลาด และภูมิศาสตร์

พื้นที่เอ เป็นบริเวณที่มีผู้ประกอบการมาก ปริมาณความต้องการสูง หาลูกค้าได้ง่าย สร้างรายได้และกำไรได้ พื้นที่บี เป็นบริเวณที่มีศักยภาพเข้าไปทำตลาด มีปริมาณความต้องการของประชาชน แต่ยังไม่มีบริการเข้าไป และพื้นที่ซี คือ พื้นที่ที่ขาดแคลนด้านบริการโทรคมนาคมทุกประเภท แม้ความต้องการของประชาชนในพื้นที่จะมี แต่ไม่มีผู้ประกอบการเข้าไปทำตลาด เพราะจะประสบปัญหาขาดทุน

“เราต้องการราคากลางในการทำยูเอสโอของแต่ละจังหวัด เลยจัดให้มีโมเดลต้นแบบ แต่ละจังหวัดต้องมีบริการใดบ้าง เช่น ต้องมีโทรศัพท์สาธารณะ โทรศัพท์ประจำที่ อินเทอร์เน็ตเท่าใด ซึ่งตัวเลข 250 ล้านบาทนี้ สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) เป็นผู้เสนอมา โดยประเมินจากศักยภาพและความขาดแคลนบริการโทรคมนาคม ดังนั้น จะเปิดให้เอกชนที่สนใจเข้ามาประมูลเพื่อทำงานตรงนี้ กำลังหารือ และร่างเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์)”

กองทุน5ปี2.5หมื่นล้าน
ปัจจุบันเงินกองทุนยูเอาโอยกยอดมาจากปี 2554 มี 2,900 ล้านบาท นำมาทำโครงการนำร่อง 2 จังหวัด 500 ล้านบาท ดังนั้น ปีนี้ กสทช. จะเหลือเงินกองทุน 2,400 ล้านบาท

แต่คาดว่า ปี 2555 จะจัดเก็บเงินเข้ากองทุนได้อีก 5,000 ล้านบาท จากค่าธรรมเนียมนำส่งเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนาอัตรา 3% จากผู้ได้รับใบอนุญาตทุกรายทุกประเภทใบอนุญาต ยกเว้นรายที่มีรายได้ไม่เกิน 20 ล้านบาท ไม่ต้องนำเงินส่งเพื่อส่งเสริมให้มีผู้ประกอบการขนาดเล็ก หากเป็นลักษณะนี้จะทำให้ตลอด 5 ปีตามแผนแม่บทกสทช. มีเงินเข้ากองทุนรวม 25,000 ล้านบาท

กสทช.มีเป้าหมายที่จะให้คนไทยได้ใช้บริการโทรคมนาคมอย่างทั่วถึงและครอบคลุม โดยบริการเสียงครอบคลุม 99% บริการอินเทอร์เน็ตครอบคลุม 80% ของจำนวนประชากรทั้งหมดภายใน 5 ปี จากปัจจุบันอัตราการ เข้าถึงอินเทอร์เน็ต 35%

ตั้งยูเอสโอเน็ต
พร้อมกันนี้ กสทช.ยังจัดตั้งศูนย์อินเทอร์เน็ตชุมชุน (ยูเอสโอ เน็ต) ตอบสนองความต้องการใช้งานตามความนิยมของประชาชนในพื้นที่เป้าหมาย โดยกำหนดหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการพิจารณาคัดเลือกพื้นที่จัดตั้งศูนย์ต้องเป็นหน่วยงานของรัฐ หรือนิติบุคคล เช่น สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชนต่างๆ

พื้นที่ดังกล่าวต้องเหมาะสมตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่ กสทช. กำหนดไว้ ได้แก่ หลักเกณฑ์การคัดเลือกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทางสังคม เช่น โรงเรียน สถานสงเคราะห์คนพิการ คนชรา เป็นต้น รวมถึงต้องมีแผนรองรับการดำเนินการภายหลังได้รับการจัดการศูนย์ อีกทั้งต้องไม่ช้ำช้อนกับพื้นที่การดำเนินงานของกระทรวงไอซีที เป็นต้น

[ที่มา www.bangkokbiznews.com]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น