ซีเกท ประกาศผลประกอบการทางการเงินในไตรมาสที่ 2 ปีการเงิน 2555 มีการจัดส่งดิสก์ไดรฟ์ จำนวน 47 ล้านตัว และรายได้จำนวน 3,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่เวสเทิร์น ดิจิตอล รายได้แตะที่ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และยอดจัดส่งฮาร์ดไดรฟ์ที่ 28.5 ล้านตัว ขณะที่การฟื้นตัวหลังน้ำท่วมเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเร็วกว่าที่คาดไว้…
บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ป (WD) เผยผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปีงบประมาณสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยมีตัวเลขรายได้แตะที่ 2.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ยอดจัดส่งฮาร์ดไดรฟ์ที่ 28.5 ล้านยูนิต และรายได้สุทธิจำนวน 145 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเท่ากับ 0.61 เหรียญ สหรัฐฯต่อหุ้น โดยหากไม่นับรวมค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย และแผนการเข้าซื้อกิจการของฮิตาชิ โกลบอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ (HGST) แล้ว รายได้สุทธิที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป (non-GAAP) จะอยู่ที่ 358 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเท่ากับ 1.51 เหรียญสหรัฐฯต่อหุ้น 1 โดยในช่วงระหว่างไตรมาส บริษัทมีค่าใช้จ่ายต่างๆ คิดเป็นจำนวนเงินเท่ากับ 199 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์น้ำท่วม และอีก 14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเกี่ยวข้องกับแผนการเข้าซื้อกิจการของ HGST
ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว บริษัทได้รายงานตัวเลขรายได้ที่ 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้สุทธิที่ 225 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเท่ากับ 0.96 เหรียญสหรัฐฯต่อหุ้น และส่งออกฮาร์ดไดรฟ์ทั้งสิ้น 52.2 ล้านยูนิต บริษัทสามารถสร้างรายได้ที่เป็นเงินสดมูลค่า 378 ล้านเหรียญสหรัฐฯจากผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสเดือนธันวาคม ซึ่งสิ้นสุดโดยมีตัวเลขเงินสดทั้งหมดและที่เทียบเท่ากับเงินสดทั้งสิ้นจำนวน 3.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ประกาศถึงความคืบหน้าเพิ่มเติมที่สำคัญในการฟื้นคืนกำลังการผลิต หลังจากที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อเร็วๆ นี้ในประเทศไทย โดยได้ทำการฟื้นการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และเมื่อวานนี้ก็ได้จัดการให้การผลิตหัวอ่านฮาร์ดไดรฟ์ (Slider) กลับคืนสู่สภาวะปกติ หลังจากที่ได้ระงับการผลิตมาตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.2554 ที่ผ่านมา ขณะนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าความสามารถในการผลิตในไตรมาสซึ่งจะสิ้นสุดเดือนกันยายน 2012 นี้ จะกลับคืนสู่สภาวะเท่ากับช่วงที่ก่อนเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม
นายจอห์น คอยน์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ WD กล่าวว่า เรามีความคืบหน้าเป็นอย่างมากในการฟื้นคืนกำลังการผลิตของ WD หลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ในประเทศไทย และสิ่งนี้ได้สะท้อนให้เห็นในผลประกอบการทางการเงินในไตรมาสที่สองของเรา และในการฟื้นคืนการดำเนินงานของเราที่นั่นให้กลับสู่สภาพเดิม ขณะที่งานส่วนใหญ่ยังคงต้องดำเนินต่อไปในอีกหลายไตรมาสต่อจากนี้ เพื่อให้ได้กำลังการผลิตเท่ากับก่อนเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม จนถึงปัจจุบันเรามองเห็นถึงความคืบหน้าเป็นอย่างมาก มากกว่าที่เราคาดหวังไว้ในตอนแรก โดยความคืบหน้านี้เกิดจากการทำงานที่ทุ่มเทและมีประสิทธิภาพของพนักงานของ WD ผู้รับเหมา และหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลไทย ความพยามยามของคู่ค้าที่จัดส่งสินค้าให้กับเรา และการสนับสนุนจากลูกค้า WD รู้สึกสำนึกในบุญคุณต่อทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในความพยายามที่สุดแสนพิเศษครั้งนี้
ส่วนการเข้าซื้อกิจการของ HGST อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อที่จะปิดการขายให้สำเร็จภายในเดือนมีนาคม 2555 นี้ โดย WD ยังคงดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะขอรับการอนุญาตตามกฎระเบียบ ในการทำธุรกรรมจากหน่วยงานของรัฐบาล ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ
ด้าน บริษัทซีเกท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการทางการเงินในไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2554 โดยมีการจัดส่งดิสก์ไดรฟ์จำนวน 47 ล้านตัว และรายงานยอดได้จำนวน 3,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กำไรขั้นต้น ร้อยละ 31.6 กำไรสุทธิ จำนวน 563 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และกำไรสุทธิต่อหุ้นที่ได้รับการรับรองทางด้านบัญชี เท่ากับ 1.28 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับผลประกอบการทางการเงินที่ยังไม่ได้รับการรับรองทางด้านบัญชี ซึ่งไม่รวมผลกระทบของบางรายการ ซีเกทรายงานกำไรสุทธิ จำนวน 581 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และกำไรสุทธิต่อหุ้น เท่ากับ 1.32 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554
สำหรับผลประกอบการในช่วงเวลา 6 เดือนที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554 บริษัทรายงานยอดรายรับ จำนวน 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กำไรขั้นต้น ร้อยละ 26 กำไรสุทธิ จำนวน 703 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และกำไรสุทธิต่อหุ้นที่ได้รับการรับรองทางด้านบัญชี เท่ากับ 1.61 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับผลประกอบการทางการเงินที่ยังไม่ได้รับการรับรองทางด้านบัญชี ซึ่งไม่รวมผลกระทบของบางรายการ ซีเกทรายงานกำไรสุทธิ จำนวน 727 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และกำไรสุทธิต่อหุ้น เท่ากับ 1.67 เหรียญสหรัฐฯ ซีเกทยังคืนเงิน จำนวน 151 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้แก่ผู้ถือหุ้นในรูปของเงินปันผล และซื้อหุ้นสามัญของซีเกทกลับคืนมา จำนวน 191 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเทียบเท่ากับจำนวนหุ้นสามัญประมาณ 13 ล้านหุ้น
ซีเกทประกาศว่าการควบกิจการกับธุรกิจฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ของบริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ จำกัด เสร็จสมบูรณ์แล้ว สืบเนื่องจากธุรกรรมนี้ ค่าเสื่อมของสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบกิจการ จำนวน 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสด) ถูกรวมอยู่ในกำไรสุทธิที่ได้รับการรับรองทางด้านบัญชีสำหรับไตรมาสที่สองของปีการเงินและกำไรสุทธิในช่วงเวลา 6 เดือน ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554 สำหรับไตรมาสที่สามของปีการเงินของซีเกท ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2555 คาดว่าค่าเสื่อมของสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบกิจการจะมีจำนวน 35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
[ที่มา www.thairath.co.th]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น