
ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมโทรทัศน์ ในกลุ่มเคเบิลทีวีและช่องทีวีดาวเทียมคึกคักอย่างมาก ด้วยครัวเรือนไทยได้เปลี่ยนรูปแบบการรับชมเสาก้างปลา
ไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่สามารถรับชมช่องรายการได้มากกว่าฟรีทีวี 6 ช่อง โดยในปี 2554 สมาคม เคเบิลทีวี แห่งประเทศไทย และสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียมประเทศไทย คาดการณ์ว่ามีครัวเรือนไทย เป็นสมาชิกเคเบิลทีวีและติดจานรับสัญญาณดาวเทียมแล้ว 17.2 ล้านครัวเรือน หรือ 80% ของครัวเรือนไทย และจะครอบคลุมทั่วประเทศในปี 2556
ธิติฏฐ์ นันทพัฒน์สิริ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ทรูวิชั่นส์ กล่าวว่า ตัวเลขการเติบโตของภาคการรับชมผ่านเคเบิลทีวี และจานดาวเทียม ส่งผลให้อุตสาหกรรมทีวีในปีที่ผ่านมาอยู่ในภาวะ ที่เจ้าของคอนเทนท์ทุกประเภท “แห่เปิดช่องทีวีดาวเทียม” เพื่อหวังใช้เป็นพื้นที่ในการนำเสนอคอนเทนท์ ทำให้มีอัตราเฉลี่ยการเปิดช่องใหม่ทุกสัปดาห์ เพราะหวังจะเป็น”สื่อทางเลือก” ที่สามารถเข้าไปแชร์เม็ดเงินโฆษณาฟรีทีวีปีละ 6 หมื่นล้านบาทมาได้ แม้เพียง 5-10% ก็นับเป็นเม็ดเงินราว 3-6 พันล้านบาท จึงเป็นสื่อใหม่ที่น่าสนใจ
“ปีนี้ค่ายคอนเทนท์ดีๆ จะเข้ามาลงทุนเปิดช่องทีวีดาวเทียมกันต่อเนื่อง ทั้งรายใหม่และรายใหญ่ ที่มีช่องอยู่แล้วจะลงทุนเพิ่มเติม ฝ่ายเอเยนซีและลูกค้าที่ลงโฆษณา จะปรับสัดส่วนแบ่งเม็ดเงินโฆษณามาใช้กับเคเบิลและทีวีดาวเทียมเพิ่มขึ้นเช่นกัน สถานการณ์เช่นนี้ ทรูวิชั่นส์ มองในมุมบวกว่า จะเข้ามาช่วยกันสร้างตลาดให้เติบโต” ธิติฏฐ์ กล่าว
ชู’กีฬา-เอชดี’เจาะพรีเมียม
ธุรกิจเคเบิลทีวีในปัจจุบันแบ่งตลาดชัดเจน โดยมี 2 ตลาดหลัก คือ กลุ่มแมส และกลุ่มพรีเมียม ซึ่งทรูวิชั่นส์ให้ความสำคัญทั้ง 2 ตลาด โดยมีจุดแข็งในตลาดพรีเมียม จากคอนเทนท์คุณภาพ โดยเฉพาะ “กีฬา” จากทั่วโลก แม้ว่าจะมีคู่แข่งสนใจเข้ามาประมูลลิขสิทธิ์กีฬามากขึ้นในปีนี้ แต่เชื่อว่าทัวร์นาเมนท์หลักๆ ระดับโลก ยังอยู่ที่ทรูฯ เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ “พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ” ที่ทรูฯ ให้ความสำคัญในการทำตลาดและซื้อลิขสิทธิ์ และแม้ว่าจะไม่สามารถชนะการประมูลชิงลิขสิทธิ์ในบางรายการ แต่จะทัวร์นาเมนท์อื่นๆ มาทดแทน
“เรายินดีต้อนรับผู้ประกอบการทุกราย ทั้ง อาร์เอสและแกรมมี่ ที่จะเข้ามาร่วมทำตลาดลิขสิทธิ์กีฬาระดับโลกกับทรูฯ ในปีนี้ หลังจากทรูฯ อยู่ในตลาดการซื้อลิขสิทธิ์จากทั่วโลกมากว่า 20ปี เพราะจะทำให้ผู้ชมได้ประโยชน์จากคอนเทนท์หลากหลาย และมีกีฬาใหม่ๆ ให้รับชม เป็นการร่วมกันสร้างตลาดเพย์ ทีวี ให้เติบโตในอนาคต” ธิติฏฐ์ กล่าว
ทิศทางการเติบโตของเครื่องรับทีวีในกลุ่มจอแอลซีดี แอลอีดี พลาสมา และอินเทอร์เน็ตทีวี ในปีที่ผ่านมาทรูวิชั่นส์ ได้เปลี่ยนกล่องรับสัญญาณ เป็นรุ่น “เอชดี พลัส” ให้สมาชิกฟรี โดยใช้งบประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการในระบบเคเบิลทีวีต่างจากรายอื่นๆ ด้วยบริการรับชมคอนเทนท์ช่องเอชดี ที่ให้ภาพคมชัด, บริการสั่งอัดรายการ HD PVR พร้อมกันได้ 2 รายการ และระบบ On Demand ที่ตอบโจทย์ความต้องการสมาชิก ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ปัจจุบันทรูวิชั่นส์ ได้เสนอแพ็คเกจช่องเอชดี 11 ช่อง ปีนี้วางแผนจะเพิ่มช่องเอชดี ให้ครอบคลุมทุกลุ่มประเภทรายการ ตอบสนองความต้องการสมาชิกทุกกลุ่ม พร้อมรักษาและขยายกลุ่มพรีเมียม จากคอนเทนท์คุณภาพ และเป็นฐานสมาชิกที่แข็งแกร่งของทรูฯ
โหมแอพฯ-ทีวีเอนีแวร์
อีกดัชนีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือ จำนวนผู้เป็นเจ้าของสมาร์ทดีไวซ์ประเภทต่างๆ ราว 15.5 ล้านรายในปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น สมาร์ทโฟน 14.5 ล้านเครื่อง, แทบเล็ต 3 แสนเครื่อง และ สมาร์ททีวี 7 แสนเครื่อง โดยจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟน 2 ใน 5 ราย มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ
รวมทั้งประชากรออนไลน์ไทยในปัจจุบันที่จำนวน 31 ล้านคน หรือ 46% ของจำนวนประชากร เติบโต 28% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่การเปิดให้บริการ 3จี ของค่ายมือถือต่างๆ ในปีที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ใช้งาน 2.3 ล้านราย หรือ 3.4% ของจำนวนผู้ใช้มือถือ และจำนวน 7.4% เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ถือเป็นปัจจัยกระตุ้นให้กลุ่มคอนเทนท์ โปรวายเดอร์ และสื่อ ขยายตัวสู่แพลตฟอร์มใหม่ๆ ในยุคดิจิทัล
ปีนี้ ทรูวิชั่นส์ จึงได้เพิ่มช่องทางการรับชมในรูปแบบ Digital Multiplatform ด้วยการนำเสนอบริการ TV Anywhere เพิ่มความสะดวกในการรับชมรายการให้สมาชิกไม่ว่า “อยู่ที่ไหนก็รับชมทรูวิชั่นส์สดๆ” ได้ผ่านทางสมาร์ทดีไวซ์ ทั้ง ไอโฟน ไอแพด และ แอนดรอยด์ รวมทั้งคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต สมาชิก ทรูวิชั่นส์ สามารถสมัครรับบริการ “ทีวีเอนีแวร์” ที่จะได้ชมกว่า 30 ช่องรายการฮิต
พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวบริการ “ทรูวิชั่นส์ แอพ” นวัตกรรมความบันเทิงในรูปแบบ One Stop Service ที่สะดวกในการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของผู้ชมในรูปแบบแอพพลิเคชั่นบน ไอโฟน และ แอนดรอยด์ สามารถเข้าถึงบริการผ่านเมนูต่างๆ เช่น อี แมกกาซีน สามารถเลือกชมแมกกาซีน รายการประจำเดือนผ่านไอแพด พร้อมภาพและวีดิโอคลิป ตัวอย่างรายการต่างๆ ที่ออกอากาศทางทรูวิชั่นส์
ปี 2555 จะเป็นอีกหนึ่งปีที่ ทรูวิชั่นส์ มุ่งเสริมคอนเทนท์ พัฒนาเทคโนโลยี และนำเสนอนวัตกรรมหลากหลาย ตอบโจทย์ผู้ชมในยุคดิจิทัล ผ่านแพลตฟอร์ม ที่สามารถเข้าถึงคอนเทนท์ได้ “ทุกที ทุกเวลา”
[ที่มา www.bangkokbiznews.com]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น