Advertisment

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สื่อสารไทยโตแต่ไม่หวือหวา รอ”3G”คลื่นใหม่จุดพลุแข่งดุ


บริษัทวิจัยชื่อดัง “ฟรอสต์แอนด์ ซัลลิแวน” เผยตลาดโทรคมนาคมไทยในปีนี้ยังเติบโตแต่ภาพรวมไม่ หวือหวา ไม่มีสีสัน เหตุ 3G คลื่นใหม่ 2.1 GHz ยังไม่เกิดเต็มตัว ค่ายมือถือใช้แผนสำรองอัพเกรดคลื่นเดิมแค่ทำไปขายไป แนะโอเปอเรเตอร์ปรับตัวหาพาร์ตเนอร์ร่วมสร้างการเติบโต-รุกไมโครเซ็กเมนเตชั่น ขณะที่คาดการลงทุนไอทีจะเติบโต 10%

ดร.มนธ์สินี กีรติไกรนนท์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน กล่าวถึงภาพรวมตลาดโทรคมนาคมในไทยปี 2555 ว่า การให้บริการโครงข่าย 3G เชิงพาณิชย์แบบสมบูรณ์ (ความถี่ 2.1 จิกะเฮิรตซ์) คงไม่เกิดขึ้นในปีนี้ เพราะ กสทช.เพิ่งมีไม่นาน ขณะที่ฝั่งโอเปอเรเตอร์ก็หันไปใช้แผนสำรองด้วยการให้บริการบนคลื่น อื่น ดังนั้นภาพรวมการลงทุนและขยายเครือข่ายจึงใช้วิธีทำไปขายไป คาดว่า การเปลี่ยนแปลงและสิ่งใหม่ ๆ ในตลาด รวมถึงแคมเปญการแข่งขันอย่างเข้มข้นของโอเปอเรเตอร์แต่ละรายจะได้เห็นในปี 2556

ตนมองว่า โอเปอเรเตอร์ต้องปรับตัวด้วยการทำธุรกิจแบบจับมือกับพาร์ตเนอร์, อัพเกรดเทคโนโลยีเพื่อช่วยลดต้นทุนหันมาทำการตลาดแบบไมโครเซ็กเมนเตชั่น ให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางและหาทางเข้าถึงลูกค้าเป็นรายคน ซึ่งเท่าที่เห็นมีเอไอเอสรายเดียวที่ทำ

ด้านนายนิธิน บัท หุ้นส่วนและคณะที่ปรึกษา บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน กล่าวว่า ภาพรวมตลาดยังค่อนข้างดีมีความต้องการ โดยเฉพาะบริการโมบายล์ดาต้า เรียกว่าฝั่งองค์กรและโอเปอเรเตอร์พร้อมขยายบริการ ขณะที่ลูกค้าก็พร้อมซื้อ เหลือแต่ผู้กำกับดูแลว่าจะเดินไปทางไหน โดยเรื่องสัมปทานคงเป็นประเด็นหลัก โดยส่วนตัวคิดว่า ถ้าเป็นไปได้อยากให้ภาครัฐอาจเป็นกระทรวงไอซีทีเข้ามาจัดการ ว่าทีโอทีและ กสทฯจะอยู่ต่ออย่างไร ควรมีโรดแมป และไม่ลงทุนซ้ำซ้อนกัน ควรวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนนำมาเชื่อมโยงกันเป็นรูปแบบบริการที่ทำร่วมกันได้ เพื่อให้แข่งขันในตลาดได้

สำหรับภาพรวมตลาดโทรคมนาคม ปี 2554 โอเปอเรเตอร์หลายรายเริ่มหาพาร์ตเนอร์ในการทำธุรกิจ เช่น ทรูมูฟจับมือกับ กสท โทรคมนาคม ขยายบริการ 3G หรือทรูมูฟขอเป็นผู้ให้บริการ 3G ในลักษณะ MVNO กับทีโอที ส่วนเอไอเอสมีความร่วมมือให้บริการไว-ไฟกับ 3BB เป็นต้น มีดีแทครายเดียวที่ไม่กระตือรือร้นหาพาร์ตเนอร์ธุรกิจ

ส่วนการแข่งขันในปีที่ผ่านมา ดร.มนธ์สินีกล่าวว่า เอไอเอสมีผลประกอบการโดดเด่นสุด สังเกตจากการปันผลกำไร, การเติบโตของธุรกิจช่วงน้ำท่วมครั้งใหญ่ และการคงสัดส่วนตลาดของตนเองให้ทิ้งห่างจากคู่แข่ง ซึ่งน่าจะมาจากการที่คู่แข่ง เช่น ทรูมูฟ และดีแทคต้องพบกับการเปลี่ยนแปลง ค่าสัมปทานทำให้ต้นทุนทั้งคู่สูงขึ้น

ดร.มนธ์สินียังเสริมว่า ปัจจุบันจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือในไทยมี 70 ล้านคน มีผู้ใช้โมบายล์ อินเทอร์เน็ต 1.2-1.4 ล้านคน ใช้อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ 45 ล้านคน คาดว่าในอนาคตการใช้โมบายล์อินเทอร์เน็ตจะเป็นช่องทางหลักในไทย ขณะที่ฟิกซ์บรอดแบนด์ตามบ้านเป็นตัวเสริม

หากภายในปี 2558 ภาครัฐทำให้คนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ได้ 80% ของประชากรทั้งประเทศ จะมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ 64% และมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านฟิกซ์ บรอดแบนด์ 16%

ด้านภาพรวมตลาดไอซีทีปี 2555 นายนิธินกล่าวว่า การลงทุนด้านไอที น่าจะโต 10-11% เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ ต้องอัพเกรดโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที และมีแนวโน้มที่น่าสนใจ 10 เรื่อง ได้แก่ โมบายล์แพลตฟอร์มจะเริ่มแพร่หลายมากขึ้น โดยยอดส่งมอบสมาร์ทโฟนและแท็บเลตในไทยจะแซงยอดส่งมอบคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊กในปลายปีนี้ถึงต้นปี 2556 ถือเป็นความท้ายทายของโอเปอเรเตอร์เรื่องความต้องการใช้ดาต้าที่เพิ่มขึ้นมหาศาล

เรื่องที่ 2 คอมพิวติ้ง, โมบายล์ และอินเทอร์เน็ตจะผสมผสานกันในระบบนิเวศ สร้างโอกาสใหม่ในตลาดให้ทุกองค์กรที่เกี่ยวข้อง 3. เครือข่ายฟิกซ์ บรอดแบนด์และ 3G มีความเร็วสูงขึ้น โดยจะเติบโตอย่างเห็นได้ชัดใน 3 ปีต่อจากนี้ 4.อุปกรณ์ชนิดต่าง ๆ ที่เชื่อม อินเทอร์เน็ตได้จะมีมากขึ้นและเชื่อมต่อกันเอง สร้างโอกาสใหม่และโมเดล ธุรกิจใหม่ ๆ

5.ข้อมูลต่างๆ จะมีเยอะมากขึ้นทำให้องค์กรต้องการโซลูชั่นด้านการวิเคราะห์ข้อมูลสูงขึ้น 6.คลาวด์ คอมพิวติ้งจะกลายเป็นกระแสหลักมากกว่าเดิม โดยตลาดในประเทศไทยจะเติบโต 50% เรื่องที่ 7 ธุรกิจโทรคมนาคมจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบมากขึ้น เนื่องจากโอเปอเรเตอร์ต้องพบกับความกดดันจากการหารายได้เพิ่มขึ้นจึงจำเป็นต้องหารูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ ช่วยสร้างการเติบโต

เรื่องที่ 8 การสื่อสารในองค์กร รูปแบบต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นการสื่อสารในลักษณะพร้อมกันหลายคนมากขึ้น และเริ่มเข้าสู่รูปแบบคลาวด์คอมพิวติ้ง 9.องค์กรต่าง ๆ ต้องการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กสำหรับในองค์กรสูงขึ้น และสุดท้าย องค์กรในอุตสาหกรรมไอซีที ทั้งโอเปอเรเตอร์, เอสไอ หรือซอฟต์แวร์เวนเดอร์จะเริ่มมองหาวิธีให้บริการในภาคอุตสาหกรรมอื่นเพื่อทำให้รายได้บริษัทเติบโต

[ที่มา www.prachachat.net]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น