
ฟูจิ ซีร็อกซ์ ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาทลงทุนอาร์แอนด์ดี-ขยายศูนย์บริการในไทย ชูกรีน เทคโนโลยี เปิดตัวมัลติฟังก์ชันสี-ขาวดำต่อยอดฐานเดิม
นายสมมาตร บุณยะสุนานนท์ รองประธาน บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปี 2555 บริษัทมีแผนลงทุนในประเทศไทยต่อเนื่องมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทใกล้เคียงปีที่ผ่านมา สำหรับการทำตลาด วิจัยและพัฒนาบริการและโซลูชั่นใหม่ๆ รวมทั้งขยายศูนย์บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
บริษัทเตรียมใช้เงิน 10-15 ล้านบาทจากงบประมาณดังกล่าวขยายศูนย์บริการไปภาคใต้ และอีสานอย่างละ 1 แห่ง รวมทั้งตกแต่งช็อปใหม่ต่างจังหวัดอีก 3 แห่ง และหวังว่าการลงทุนบริการด้านโซลูชั่นร่วมกับคู่ค้าแบบเฉพาะกลุ่ม จะทำให้สัดส่วนรายได้จากการขายโซลูชั่นเปลี่ยนจาก 10% เป็น 15%
พร้อมกันนี้ บริษัทวางทิศทางการทำตลาดมุ่งเปิดตัวเครื่องดิจิทัลมัลติฟังก์ชันรุ่นใหม่ๆ ทั้งสีและขาวดำ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานลดลง 30% นำเสนอความเป็นโทเทิลโซลูชั่น เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบธุรกิจดิจิทัล พรินติ้ง โรงงาน สถาบันการศึกษา เฮลธ์แคร์ และโรงแรม
ตลอดจนเพิ่มทุนบริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ ลิสซิ่ง ซึ่งจดทะเบียนไว้ 60 ล้านบาท เป็นมากกว่า 100 ล้านบาท ตอบโจทย์ความต้องการและนโยบายการเงินของลูกค้าที่ไม่ต้องการลงทุนซื้อสินค้าเป็นเงินก้อน ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าที่นิยมซื้อสินค้าแบบลิสซิ่งเกินกว่า 60%
ส่วนแนวคิดเข้ามาตั้งโรงงานในไทย กำลังศึกษาต้นทุน สถานที่ และรอให้บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นพิจารณาเห็นชอบ
ล่าสุด จัดงานกระตุ้นยอดขายและเพิ่มการรับรู้แบรนด์ “2012 DocuWorld” ครั้งที่ 4 วันที่ 7-8 ก.พ. 2555 ที่พารากอนฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งเป็นกิจกรรมประจำปีโดยภายในงานแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ ส่วนแสดงผลิตภัณฑ์ สาธิตการทำงานของสินค้าและบริการ และส่วนสัมมนาโดยผู้เชี่ยวชาญและวิทยากรชื่อดัง
เขา คาดว่าตลาดรวมเครื่องดิจิทัล มัลติฟังก์ชันมีโอกาสเติบโต 15-20% จากปัจจัยการเปลี่ยนเทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องอนาล็อกเริ่มไม่มีจำหน่ายและหาอะไหล่ยาก รวมทั้งภาวะการแข่งขันทางเศรษฐกิจลูกค้าต้องมองหาวิธีบริหารจัดการที่ช่วยลดต้นทุน
ขณะที่เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ทำให้บริษัทประสบกับปัญหาด้านซัพพลาย เชน เช่น ขาดแคลนฮาร์ดดิสก์จากบริษัทดับบลิวดี จากครึ่งปีแรกเติบโต 21% พอเดือน ต.ค.-ธ.ค. รายได้หายไป 40-50% แต่ขณะนี้ สถานการณ์เริ่มกลับเข้าที่ เชื่อว่าปิดปีงบประมาณ 2554 เดือน มี.ค. จะเติบโตได้ตามเป้าเป็นตัวเลข 2 หลัก หรือ 11%
“ที่ผ่านมา เราพบอุปสรรคทั้งปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และน้ำท่วม แต่ยังเติบโตมาได้ดีต่อเนื่อง ปีนี้ยอมรับว่าวิตกกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรี และนโยบายของรัฐบาลไทย แต่หวังว่าจะเติบโตได้ 15% มีรายได้รวมทุกกลุ่ม 4,000 ล้านบาท”
[ที่มา www.bangkokbiznews.com]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น