
ซอฟต์แวร์ พาร์ค ร่วมกับ สวทช. หนุนผู้ประกอบการธุรกิจซอฟต์แวร์ ในการปรับปรุงกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ ยกระดับอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ให้เข้มแข็ง พร้อมก้าวสู่การแข่งขันในเวทีระดับโลก…
นายธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรม ซอฟต์แวร์ประเทศไทย หรือ ซอฟต์แวร์ พาร์ค กล่าวว่า มาตรฐานการผลิตซอฟต์แวร์ มีความสำคัญมากในการแข่งขัน ทั้งตลาดภายในประเทศ และเวทีโลก ซึ่งหลายประเทศที่ต้องการมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นใน Global Outsourcing Market ที่กำลังโตขึ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ภาครัฐในประเทศต่างๆ เร่งผลักดันบริษัทซอฟต์แวร์ให้ได้รับมาตรฐาน CMMI มากขึ้น ผ่านการให้ทุนสนับสนุนในการเตรียมความพร้อม และการประเมินตั้งแต่ 70-100% ของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เวียดนาม ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีบริษัทที่ผ่าน CMMI มากกว่า 100 ราย ภายใน 4 ปี และมาเลเซีย ตั้งเป้าให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกรวมเป็น 100 ราย
ผู้อำนวยการซอฟต์แวร์ พาร์ค กล่าวต่อว่า จากผลสำรวจของบริษัทซอฟต์แวร์ในโครงการ SPI@ease Phase 1 พบว่าการสื่อสารภายในองค์กร และกับลูกค้าดีขึ้นมาก การประมาณการณ์แม่นยำมากขึ้น สามารถส่งมอบงานได้ตรงตามกำหนดเวลามากขึ้น ได้รับความเชื่อถือ เป็นที่รู้จัก ยอมรับจากลูกค้ามากขึ้น และลูกค้าพึงพอใจมากขึ้น ส่งผลให้การรับงานจากทั้งภายใน และภายนอกประเทศเพิ่มมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น จึงเป็นข้อสรุปที่ชัดเจนว่าโครงการ SPI@ease Phase 1 เป็นกลไกสำคัญที่ส่งเสริมให้บริษัทซอฟต์แวร์ไทย สร้างความเข้มแข็งจากภายในให้เกิดขึ้นในองค์กร และสามารถพัฒนาสายสัมพันธ์กับลูกค้าเก่าให้ดีขึ้น พร้อมสร้างโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งในและต่างประเทศ
นายธนชาติ กล่าวอีกว่า ซอฟต์แวร์ พาร์คเล็งเห็นความสำคัญ และประโยชน์ในการพัฒนาธุรกิจซอฟต์แวร์ จึงเปิดโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจซอฟต์แวร์ ในการปรับปรุงกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ เป็นรุ่นที่ 2 หลังจากที่เปิดโครงการ รุ่นที่ 1 เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ และมีบริษัทซอฟต์แวร์เข้าร่วม โครงการ และผ่านการรับรองมาตรฐาน CMMI จำนวน 23 บริษัท และโครงการ รุ่นที่ 2 (ยังไม่สิ้นสุดโครงการฯ) มีบริษัทซอฟต์แวร์เข้าร่วม จำนวน 22 บริษัท ผ่านการรับรองมาตรฐาน CMMI จำนวน 6 บริษัท
ขณะเดียวกัน ประเทศไทยมีบริษัทที่ผ่านการประเมิน CMMI จัดเป็นอันดับ 2 ในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากมาเลเซีย ซึ่งมีทั้งสิ้น 71 บริษัท และการที่ประเทศไทยจะปรากฏในแผนที่ซอฟต์แวร์โลกได้นั้น การสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง และต่อเนื่องจากภาครัฐในการขยายผล และต่อยอดโครงการ SPI@ease ใน โครงการที่ 2 จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในการเสริมสร้างรากฐานอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยให้เข้มแข็ง และเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างความน่าเชื่อถือ และความเชื่อมั่นให้กับประเทศ พร้อมที่จะก้าวสู่การแข่งขันในเวทีโลกอย่างมั่นใจ.
[ที่มา www.thairath.co.th]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น